
1. สัมผัสวัสดุที่ใช้
กระเป๋าของแต่ละแบรนด์ทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกันไป บางรุ่นใช้หนังแท้ บางรุ่นก็เป็นหนังเทียม หรือบางแบรนด์ก็นิยมใช้ผ้า หากเป็นกระเป๋าหนังแท้จะมีสัมผัสที่นุ่ม แห้ง ไม่ลื่นมัน มีกลิ่นหอมเฉพาะ แต่ถ้าเป็นหนังเทียมหรือผ้าก็ต้องตรวจดูอีกทีว่ารุ่นที่เราอยากได้ใช้วัสดุนั้นในการผลิตจริงไหม
2. ดูจากฝีเข็มในการเย็บ
แน่นอนว่ากระเป๋าแบรนด์แท้จะมีฝีเข็มที่ประณีต บางแบรนด์จะมีวิธีการลงฝีเข็มแบบเฉพาะ ซึ่งถ้าเป็นกระเป๋าปลอมจะมีการทำที่รีบเร่ง และอาจเย็บไม่เรียบร้อย เบี้ยว ฝีเข็มไม่สม่ำเสมอ ถ้าสังเกตเห็นความไม่เนี้ยบเมื่อไหร่ ตั้งธงไว้ก่อนได้เลยว่าของปลอม
3. ดูโลโก้ให้เป๊ะ
โลโก้เป็นตัวบ่งบอกแบรนด์ที่ชัดเจนที่สุด ดังนั้นต้องดูว่าสะกดถูกต้องไหม ขนาดตรงกับความเป็นจริงหรือเปล่า ลองตรวจดูตามวัสดุตกแต่งกระเป๋า เช่น หัวซิป, หมุดยึด, ห่วง, ตะขอเกี่ยว เป็นต้น ว่าแต่ละจุดมีการปั๊มหรือพิมพ์ชื่อบนนั้นไหม บางรุ่นอาจจะปั๊มแค่ตรงหัวซิป บางรุ่นก็ปั๊มชื่อของแบรนด์ลงไปทุกจุด แล้วโลโก้แต่ละจุดมีความคมชัดหรือไม่ ถ้าตัวอักษรเลือนราง หรือช่องไฟไม่เท่ากัน ก็ฟันธงได้เลยว่าของก๊อป
4. เฉดสีไม่ผิดเพี้ยน
แม้ว่ากระเป๋าของแท้และกระเป๋าของปลอมจะมีสีเดียวกัน แต่เฉดหรือความเข้ม-อ่อนเป็นสิ่งที่เลียนแบบได้ยากมาก หากเอามาวางไว้ข้าง ๆ กันถึงจะสังเกตเห็นได้ชัด ดังนั้นแล้วถ้าสาว ๆ อยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมแท้มาครอบครอง ควรตรวจเฉดสีให้ดีว่าตรงกับสีจริง ๆ ที่ทางแบรนด์วางขายไหม
5. เช็ก Serial Number หรือ Date Code ให้ดี ๆ
ส่วนมากแล้วกระเป๋าแบรนด์เนมจะมีเลขเหล่านี้ปั๊มไว้ด้านใน โดยมีตัวอักษรระบุประเทศที่ทำกระเป๋าและปีที่ผลิต โดยแต่ละแบรนด์จะมีวิธีการอ่านแตกต่างกันไป แต่ถ้าใส่ตัวเลขมั่ว ๆ มาจะไม่สามารถนำเลขไปเช็กได้ ที่สำคัญเราต้องรู้ที่มาของแบรนด์ด้วยว่าผลิตที่ประเทศอะไร เพราะถ้าผลิตในประเทศที่ไม่ใช่พิกัดในการผลิตหลักของแบรนด์นั้น ๆ ก็ไม่ใช่ของแท้แล้วล่ะ